5 เกร็ดความรู้ดูแลบ้านช่วงหน้าฝน

สวัสดีเพื่อนๆ ชาวริชคอนส์ทุกท่าน ขอใช้โอกาสนี้ขอบพระคุณเพื่อนๆ ที่ติดตามอ่านเนื้อหาต่างๆ ของเราอย่างต่อเนื่อง
วันนี้ ริชคอนส์ขอพีกเนื้อหาเกี่ยวกับการสร้างบ้านกันสักนิด แวะเวียนมาให้ข้อมูลที่ทันกับสถานการณ์ปัจจุบันกันสักหน่อย เนื่องจากหน้าฝนเป็นฤดูที่เราใช้งานบ้านเป็นอย่างหนัก ให้เค้าดูแลคุ้มภัยให้กับเรา ในขณะเดียวกันก็เป็นเวลาที่เราจะต้องดูแล บำรุงรักษาบ้านที่เรารักไปด้วยเพื่อให้เค้าคงทน อยู่กับเราไปได้อีกนานๆ วันนี้จึงชวนพูดคุยกันในหัวข้อ 5 เกร็ดความรู้ดูแลบ้านช่วงหน้าฝน มาชมกันเลย

ในช่วงฤดูฝนสามารถนำปัญหามากมายมาให้แก่บ้านและอาคาร ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดจากน้ำฝนและความชื้น ไม่ว่าจะเป็น เห็ดราที่ขึ้นตามฝ้าและผนัง หลังคารั่ว หรือสีตามผนังแตกร้าว วันนี้ริชคอนส์จึงอยากนำเคล็ดลับในการดูแลบ้านให้สะอาดและแห้งตลอดหน้าฝนนี้

1. ป้องกันบ้านจากการรุกรานของแมลงและสัตว์เลื้อยคลาน

ในหน้าฝนที่อากาศร้อนชื้นและเฉอะแฉะ เป็นสภาพแวดล้อมที่เอื้อในการเพาะพันธุ์ของแมลงจำนวนมาก ถึงแม้ว่าแมลงและสัตว์เลื้อยคลานจำนวนมากจะไม่มีอันตรายต่อมนุษย์ แต่ก็มีอีกจำนวนมากที่สามารถทำอันตราย ก่อให้เกิดโรค หรือสร้างความเสียหายให้แก่ตัวบ้านได้ มาตรการในการป้องกันเบื้องต้น มีดังนี้

• ตรวจหาจุดที่น้ำขัง น้ำที่อยู่นิ่งๆตามจุดน้ำขังและตามภาชนะต่างๆ เป็นที่เพาะพันธุ์ยุงได้เป็นอย่างดี เดินตรวจตาโดยรอบให้มั่นใจว่าไม่มีภาชนะ ถัง หรือ กาละมังอยู่ในที่โล่ง ซึ่งน้ำฝนอาจตกลงมาใส่และกลายเป็นแหล่งเจริญเติบโตของลูกน้ำได้
• ติดตั้งมุ้งลวดกันยุงตามหน้าต่างและประตู หรือหากบ้านไหนติดตั้งมุ้งอยู่แล้ว อย่าลืมตรวจสภาพของมุ้งว่ามีส่วนไหนเสียหายหรือไม่ และซ่อมจุดที่เสียหายหากตรวจพบ
• ฉีดยากำจัดแมลงและปลวก การใช้ยากำจัดแมลงเป็นการป้องกันอีกทางไม่ให้แมลงต่างๆรุกรานบ้าน โดยเฉพาะปลวกที่หากเข้ามาพักพิงในบ้านแล้ว ต้องเสียเวลาในการกำจัดให้หมด หากไม่มั่นใจในการฉีดยาด้วยตัวเอง สามารถเรียกบริษัทผู้เชี่ยวชาญเข้ามาให้บริการได้
• เปลี่ยนไปใช้ฝาท่อระบายน้ำแบบกันกลิ่น ซึ่งฝาท่อลักษณะนี้มีประโยชน์มากกว่าแค่การป้องกันกลิ่นเหม็นที่ตีกลับมาจากท่อน้ำทิ้ง แต่ยังป้องกันแมลงและสัตว์ต่างๆให้เข้ามาในบ้านจากตัวท่อได้อีกด้วย

 

2. ป้องกันและแก้ปัญหาเรื่องผนังชื้น

คอยสังเกตผนังในบ้านว่าพบจุดไหนที่คราบน้ำ หรือมีรอยชื้นบนผนัง หากสำรวจพบจุดดังกล่าว สิ่งที่ต้องรีบทำคือมองหาสาเหตุของความชื้น ซึ่งอาจจะวิเคราะห์ได้ 3 จุดใหญ่ๆ

• หากพบรอยชื้นที่บริเวณเพดาน หรือมุมผนัง เป็นไปได้ที่ความชื้นจะเกิดมาจากการรั่วซึมของน้ำจากภายนอก ให้สังเกตว่าด้านนอกผนังบริเวณเดียวกัน อยู่ใกล้กับรางน้ำฝนหรือไม่
• หากพบความชื้นบริเวณผนังที่ใกล้กับพื้น นั่นอาจจะเป็นได้ว่าความชื้นเกิดจากตัวท่อที่อยู่ใต้ดิน
• และหากว่าเจอจุดที่ชื้น ที่ไม่สามารถหาได้ว่าความชื้นกระจายมาจากตรงไหน เป็นไปได้ว่าจะเกิดจากความชื้นในอากาศมีมากเกินไป เนื่องจากระบบถ่ายเทอากาศไม่ดี

วิธีการป้องกันและแก้ไขปัญหาผนังชื้น มีดังนี้

• ใช้ซิลิโคน ยาแนว และปูนโป๊ว ในการซ่อมจุดที่มีรอยร้าวบนผนังและท่อ
• ใช้สีกันน้ำในการทาผนังภายนอก
• ป้องกันความชื้นที่มาจากพื้นตั้งแต่ตอนสร้างบ้าน เช่น การปูผ้ายางกันชื้นคลุมก่อเทคอนกรีตพื้น หรือใช้คอนกรีตผสมมกันซึมในการเทพื้น
• ทาสีภายในด้วยสีผสมซิลิโคนที่มีคุณสมบัติในการกันน้ำและกันความชื้นสูง

 

3. ป้องกันเห็ดรา

หากเราสังเกตเจอจุดดำๆบนผนังและเพดานกระจายตัวกันอยู่ จุดสีดำเหล่านั้นคือเชื้อรานั่นเอง แม้ว่าเชื้อราดูเป็นเรื่องไม่ร้ายแรง แต่จริงๆแล้วเชื้อราสร้างอันตรายให้สุขภาพได้ และที่ร้ายกว่านั้นคือ ไม่ใช่ทุกครั้งที่เชื้อราจะสังเกตได้โดยง่าย จุดสังเกตเพิ่มเติมของสถานการณ์เชื้อราบุกบ้าน ได้แก่ สีผนังเกิดการพองปูดออกมา ใต้สีคือที่อยู่ของความชื้นและเชื้อรานั่นเอง หรือคนในบ้านแสดงอาการภูมิแพ้ เช่น คันตา น้ำตาไหล มีน้ำมูก และไอ

วิธีป้องกันบ้านจากเห็ดราง่ายๆ มีดังนี้

• ใช้น้ำยาฟอกขาวทำความสะอาดตามผนัง
• ติดตั้งพัดลมดูดอากาศในห้องต่างๆ เพื่อให้การระบายอากาศเป็นไปได้อย่างสะดวก
• หากเจอจุดรั่วซึมภายในบ้าน ให้ทำการซ่อมแซมให้เรียบร้อย

 

4. ป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร และท่อที่เสื่อมสภาพ

น้ำและไฟฟ้าเป็นของที่ไม่ถูกกันเป็นอย่างยิ่ง และสามารถสร้างความเสียหายได้อย่างมหาศาล ตั้งแต่ทำให้เกิดการบาดเจ็บจากไฟรั่วและไฟช็อต และยังอาจเป็นต้นเหตุให้เกิดเพลิงไหม้ได้อีกด้วย ควรตรวจสอบภายในบ้านว่ามีสายไฟตรงไหนที่ชำรุด และเรียกช่างไฟมาซ่อมให้เรียบร้อย ในระหว่างที่ยังไม่ได้รับการซ่อมแซม ให้นำเทปสายไฟมาพันให้เรียบร้อยและตัดไฟในส่วนดังกล่าว

เปลี่ยนท่อที่มีสภาพผุกร่อนทิ้ง และติดตั้งท่อใหม่ ไม่ว่าจะเกิดจากการใช้งานมานานหรือจากการสัมผัสฝนที่มีความเป็นกรดสูง โดยแนะนำให้เปลี่ยนเป็นท่อ CPVC ซึ่งมีคุณสมบัติที่ทนต่อฝนกรดได้สูง

 

5. ป้องกันเฟอร์นิเจอร์ไม้

เฟอร์นิเจอร์ไม้เป็นที่นิยมสำหรับบ้านต่างๆเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นเพราะเสน่ห์ของวัสดุธรรมชาติ หรือทั้งความรู้สึกหรูหราที่ได้ แต่การเลือกเฟอร์นิเจอร์ไม้นั้นมากับการบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สามารถใช้งานไปได้อย่างทนทาน เช่น การทาน้ำยาวานิชบนเฟอร์นิเจอร์ไม้ เพื่อกันไม่ให้ความชื้นเข้าสู่ตัวไม้ และทำให้ไม้โป่งพอง หรือการเคลือบแว็คหรือซีแลนท์ลงบนพื้นทุกๆ 2-3 ปีเพื่อกันฝนและความชื้น

 

จบลงแล้วกับเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับการดูแลบ้านในหัวข้อ 5 เกร็ดความรู้ดูแลบ้านช่วงหน้าฝน ขอให้เพื่อนๆ เตรียมตัว วางแผน แล้วลองนำไปปฏิบัติกัน หากท่านใดมีเทคนิคอะไรดีๆ อยากแบ่งปัน หรือมีข้อสงสัยอะไรก็ตาม เกี่ยวกับบ้าน อย่าลืมแวะเข้ามาพูดคุยกับเราได้เสมอ ที่ 095-6456964 หรือผ่านทาง Line Official โดยการสแกน QR code ด้านล่าง