เจ้าของบ้านยุคใหม่ต้องรู้!
5 วิธีกำจัดเชื้อโรคและเชื้อไวรัสในบ้าน
การทำความสะอาดบ้านเป็นหน้าที่ของเจ้าของบ้าน ที่ต้องทำความสะอาดให้ทุกคนในครอบครัวห่างไกลเชื้อโรค และฝุ่นละอองต่างๆ ยิ่งในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 คงต้องพิถีพิถันในการทำความสะอาดเพื่อฆ่าเชื้อโรคภายในบ้าน วันนี้ ” ริชคอนส์ ” มีวิธีการทำความสะอาด ฆ่าเชื้อโรคในบ้านมาฝากค่ะ
1. ฆ่าเชื้อไวรัสด้วยแสง UV ประดิษฐ์
ภาพจาก : kapok.com, อมรินทร์ ทีวี
โดยแสงที่ UV ที่เหมาะสมเป็น UV-C ที่มีความยาวคลื่น 253.7 nm สามารถฆ่าเชื้อในอากาศได้ วิธีฆ่าเชื้อง่ายๆ แค่เปิดหลอดไฟ UV- C ก็สามารถฆ่าเชื้อในอากาศได้เลย เมื่อไวรัสได้รับแสง UV-C ก็จะถูกทำลาย DNA ไม่สามารถแพร่กระจายได้ แต่ต้องระมัดระวังในการฉายแสงเนื่องจากมีผลกระทบต่อร่างกาย
ปัจจุบันการฉายแสง UV-C มีอุปกรณ์ติดตั้งและหาซื้อได้ง่าย รวมถึงมีแบบพกพาเพิ่มความสะดวกด้วย
2. การฆ่าเชื้อไวรัสด้วย Ozone
ภาพจาก : mgronline.com
โอโซน หรือ o3 ก๊าซโอโซน คือ ก๊าซออกซิเจนในสถานะพิเศษ ที่มีโครงสร้าง 3 อะตอม เกิดจากโมเลกุลออกซิเจน ได้รับพลังงานจากแหล่งพลังงาน เช่น ฟ้าผ่า แสง UV โคโรน่าดิสชาร์จ จึงเกิดการแตกตัว และรวมเป็น 3 อะตอม ซึ่งจะคงสภาพอยู่ได้ประมาณครึ่งชั่วโมง
การฆ่าเชื้อไวรัสด้วยการอบ Ozone จะช่วยให้เชื้อไวรัสตายทั้งหมด ใช้เวลาอบประมาณ ครึ่งชั่วโมง ถึง หนึ่งชั่วโมง โดยสามารถใช้บริการจากเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะมีการประเมินราคาค่าใช้จ่ายอยู่ที่ตารางเมตรละ 20-50 บาท
ข้อดีของการอบโอโซนคือ ไวรัสตายแบบสิ้นซาก โอโซนแตกตัวได้ไว ไม่มีสารเคมีตกค้างและเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
3. การป้องกันเชื้อไวรัสด้วย แผ่นกรองอากาศ HEPA H14
ภาพจาก : autobotvacuum.com
HEPA FILTER คืออะไร? HEPA หรือที่ย่อมาจากคำว่า “High Efficiency Particulate Air Filter” จัดเป็น แผ่นกรองอากาศคุณภาพสูง ทำมาจากเส้นใยไฟเบอร์กลาส (Fiberglass) ถักทอจนมีขนาดที่เล็กมากๆ จนมันมีความสามารถ ในของการกรองฝุ่นละอองขนาดเล็กมากๆ (Small Particles) ได้เป็นอย่างดี
จุดเด่นของการเลือกใช้เครื่องกรองอากาศ คือ เป็นวิธีการจัดการกับไวรัสที่คุกคามต่อสิ่งมีชีวิตน้อยที่สุด เพราะเน้นการดักจับและกรองให้เหลือแต่อากาศบริสุทธิ์ออกมานั่นเอง ทั้งยังช่วยกรองฝุ่นและมลพิษให้กับห้องได้อีกด้วย เหมาะกับบ้านที่มีเด็กๆ อาจใช้ร่วมกับการฆ่าเชื้อโรคด้วยระบบแสง UV ประดิษฐ์ ในช่วงเวลาที่ไม่มีคนใช้ห้องก็จะได้ประสิทธิภาพดีขึ้น
4. ตรวจสอบภายในบ้านอย่างละเอียด
ตรวจสอบว่าส่วนไหนของบ้านที่มีการหยิบจับ สัมผัสมากที่สุดและเป็นจุดเสี่ยงของการสะสมเชื้อโรค แบคทีเรียและเชื้อไวรัส เช่น รีโมทคอนโทรล ลูกบิดประตู เก้าอี้ โซฟา สวิทซ์ไฟ ก็อกน้ำ
นอกจากการทำความสะอาดแล้วควรเพิ่มน้ำยาฆ่าเชื้อโรคทำความสะอาดเป็นกรณีพิเศษด้วย
ทำความสะอาดด้วยความร้อนหรือสารทำความสะอาดที่หาได้ง่ายๆ เช่น ผงซักฟอก สบู่ น้ำยาล้างจาน น้ำยาฟอกขาว ให้ผสมหนึ่งในสามต่อน้ำ 1 แกลลอน
ก่อนทำความสะอาดอย่าลืมสวมถุงมือแบบใช้แล้วทิ้ง เพื่อความสะอาดอย่างมีปลอดเชื้ออย่างแท้จริง
5. การฆ่าเชื้อไวรัสด้วย เคมี
การพ่นฆ่าเชื้อ คือการฆ่าเชื้อโรคโดยการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคด้วยเครื่องพ่นละอองฝอย หรือเครื่องพ่นหมอก พ่นละอองฝอย (Misting Sanitize) มักใช้น้ำยาฆ่าเชื้อที่มีประสิทธิภาพสูง (High-Level disinfectant)
เราสามารถตรวจสอบการอนุญาตผลิตภัณฑ์ประเภทวัตถุอันตรายเหล่านี้ได้ โดยดูจากฉลากบรรจุผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองคุณภาพจากอย. หรือเข้าไปสืบค้นที่เว็บไซต์ของ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้มั่นใจว่าน้ำยาฆ่าเชื้อเหล่านั้นเหมาะสมกับการนำมาใช้งานตามพื้นที่พักอาศัยได้อย่างปลอดภัยหรือไม่
นอกจากดูแลพื้นที่ภายในให้บ้านให้ปลอดภัยและสะอาดอย่างสม่ำเสมอแล้ว หลังจากกลับถึงบ้านควรล้างมือทุกครั้ง เปลี่ยนเสื้อผ้า ทำความสะอาดร่างกาย เพื่อลดการสะสมของเชื้อโรค และป้องกันคนในบ้านให้ห่างไกลจากเชื้อไวรัสมากที่สุด เพื่อให้ตัวคุณเองและคนในครอบครัวห่างไกลจากเชื้อโรค และมีสุขภาพดีทั้งกายและใจไปด้วยกันค่ะ
หากท่านใดมีข้อเสนอแนะเกี่ยวกั
ชมผลงานจาก Richcons คลิ๊กที่นี่