รู้ก่อนใช้.. ไม้แปรรูป ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ
ทุกคนรู้หรือไม่ ว่าจริงๆแล้ว “ไม้แปรรูป” ที่เรานำมาใช้งานนั้น มีชนิดของไม้แปรรูปที่หลากหลายมาก เพราะด้วยเสน่ห์ของผิวสัมผัสที่ให้ความเป็นธรรมชาติ ให้ความรู้สึกอบอุ่นทุกขณะที่ได้อยู่อาศัย รวมถึงลักษณะตามธรรมชาติที่ไม่เหมือนกันเลยสักชิ้น เหมือนราวกับเป็นงานแฮนด์เมด
วันนี้ ” ริชคอนส์ ” เราจึงได้รวบรวมประเภทของ “ไม้” แต่ละชนิดมาฝากทุกคนค่ะ
ขั้นแรกมารู้จักประเภทและชนิดของไม้แปรรูปกันก่อน ว่ามีอะไรกันบ้าง ?
ประเภทของไม้แปรรูปแบ่งเป็น 3 ประเภทใหญ่ของไม้แปรรูป โดยการแบ่งจากประเภทของเนื้อไม้
-ไม้เนื้ออ่อน
-ไม้เนื้อแข็ง
-ไม้ต่างประเทศ
ที่เราต้องรู้จักประเภทของไม้แปรรูปก่อน เพราะเนื่องจากงานไม้แต่ละประเภทใช้ไม้ที่มีคุณสมบัติแตกต่างกัน เช่น ทำหน้าต่าง กับ ทำเก้าอี้ไม้ ก็แตกต่างกัน
ถ้าทำหน้าต่างที่ต้องเจอสภาพแวดล้อมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ฝนตก แสงแดด ก็ต้องเลือกไม้ที่มีความแข็งแรง ทนทานมากกว่าปกติ ทนน้ำ แต่ถ้าหากเป็นไม้ที่ใช้ทำโต๊ะ ก็อาจจะต้องเลือกไม้ที่สามารถรับน้ำหนักได้มากนั่นเอง
ไม้เนื้ออ่อน
สีของไม้ที่มีสีอ่อนไปจนสีเข้ม(แต่ส่วนมากจะมีสีอ่อน) เจริญเติบโตได้ไว ลายไม้ของไม้เนื้ออ่อนจะไม้ละเอียดมากลายไม้น้อย และ มีวงปีของไม้กว้าง เนื้อไม้จะไม่แข็งแรงมาก แต่โดนเด่นมากในเรื่องของน้ำหนักที่เบา เช่น ไม้ยาง ไม้กระท้อน ไม้มะม่วง ไม้ฉำฉา และไม้กระบาก
มีค่าความแข็งแรงน้อยกว่า 600 กก./ลบ.ซ. จึงไม่นิยมนำไปใช้เป็นวัสดุสำหรับก่อสร้าง วัสดุค้ำจุน งานที่ต้องใช้ภายนอก แต่นิยมสำหรับนำไปทำ เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งภายในบ้าน ตู้เสื้อผ้า โต๊ะวางของ เป็นต้น
ไม้เนื้อแข็ง
เนื้อไม้จะมีสีเข้ม และเจริญเติบโตช้ากว่าไม้เนื้ออ่อน ส่วนใหญ่อายุของไม้จะมาก
เนื้อไม้มีความละเอียด วงปีมีจำนวนมาก เนื้อไม้แน่น มีความแข็งแรง ซึ่งความแข็งแรงนี้คือ จุดเด่นเลยของไม้เนื้อแข็งที่นิยมนำมาใช้งาน เช่น ไม้สัก ไม้ตะแบก ไม้ประดู่ และไม้มะเกลือ
มีค่าความแข็งแรงมากกว่า 600-1,000 กก./ลบ.ซ. มีความทนทาน 2-6 ปี นิยมนำมาทำเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่ง ทั้งภายใน ภายนอก และยังนิยมนำไปใช้เป็นวัสดุสำหรับก่อสร้าง หรือ ค้ำจุน อีกด้วย เช่น เป็นเสาค้ำบ้าน หรือโครงสร้างหลักๆ นั้นเอง
ไม้จากต่างประเทศ
ส่วนใหญ่จะเป็นไม้เนื้ออ่อน เป็นไม้ที่เจริญเติบโตไว เป็นไม้ที่มีความแข็งแรง สีไม้อ่อน มีลวดลายสวยงาม เป็นที่นิยมให้การนำไปทำ เฟอร์นิเจอร์ ตกแต่ง ภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็น โต๊ะ ตู้ เตียง รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ
เช่น ไม้ตระกูลสน (Conifers) ไม้บีช (Beech) ไม้แอช (Ash) ไม้โอ๊ก (Oak) ไม้เชอร์รี่ (Cherry) ไม้วอลนัท (Walnut) และไม้มะฮอกกานี (Mahogany)
ทุกคนจะเห็นได้ว่า..ไม้แต่ละประเภทนั้น ต่างก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป อีกทั้งยังมีหลากหลายชนิดอีกด้วย ขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการนำไปใช้งาน ในส่วนใด ทำอะไร การรู้จักประเภทและชนิดของไม้แปรรูป ที่เรานำมาใช้งาน จะทำให้เราสามารถใช้งานได้เหมาะสมอีกด้วย
หากท่านใดมีข้อเสนอแนะเกี่ยวกั
ชมผลงานจาก Richcons คลิ๊กที่นี่