เวลาที่ผ่านไป ทำให้สิ่งของต่างๆเสื่อมสภาพลงตามกาลเวลา บ้านก็เช่นกัน เมื่ออยู่อาศัยไปนานๆ บ้านก็จำเป็นที่จะต้องได้รับการดูแลที่เหมาะสม เพื่อให้สภาพเหมาะแก่การอยู่อาศัยไปอีกยาวนาน หลายท่านอาจจะสงสัยว่า เราจะสามารถบอกได้อย่างไรว่าเมื่อไหร่ควรที่จะเริ่มซ่อมแซมบ้านดี ทางริชคอนส์จึงขอนำเสนอเคล็ดลับในการสังเกตอาการต่างๆภายในบ้าน ซึ่งเป็นตัวบ่งบอกว่าถึงเวลาต้องซ่อมแซมบ้านแล้ว

จุดสังเกตสัญญาณซ่อมบ้าน จุดที่ 1 : มีรูเล็กๆจำนวนมากในเนื้อไม้

เรื่องเล็กๆที่ไม่ควรมองข้าม คือเรื่องรูพรุนในเนื้อไม้ของเฟอร์นิเจอร์ และโครงสร้างไม้ภายในตัวบ้าน หรือแม้แต่การเจอรูเล็กๆ หลายๆรูซึ่งอยู่กันเป็นกลุ่มบนผนัง สิ่งเหล่านี้คือสัญญาณของบ้านที่ถูกปลวกรุกราน รูบนผนังหมายถึงทางออกของปลวกที่เจาะออกมาเพื่อเตรียมให้ปลวกที่เพิ่งเกิดมีทางหนี หากภายในบ้านพบเห็นรูต้องสงสัย ควรโทรเรียกช่างกำจัดปลวกมาจัดการโดยด่วน ก่อนที่ปัญหาจะบานปลาย

จุดสังเกตสัญญาณซ่อมบ้าน จุดที่ 2 : รอยดินแห้งๆบนผนังเป็นทางยาวเหมือนอุโมงค์

 

รอยดินตามผนังที่มีลักษณะเป็นเหมือนทางเดิน มักจะเป็นรอยยาวตั้งแต่บริเวณพื้นบ้านและยาวไปตามผนังบ้าน เป็นอีกหนึ่งสัญญาณอันตรายถึงการรุกรานของปลวก เนื่องจากปลวกเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ใต้ดิน ฉะนั้นมันมักจะชอบซ่อนตัวจากแสงสว่าง มันจึงสร้างทางเดินเป็นอุโมงค์จากดินขึ้นมา เพื่อทำทางเดินจากรังไปยังแหล่งอาหารภายในบ้าน (เฟอร์นิเจอร์ และโครงสร้างไม้ภายในบ้าน) ฉะนั้นควรมีการสำรวจหาร่องรอยดินที่เป็นทางเดินปลวกให้ทั่วทั้งบ้านอย่างน้อย 1-2 ครั้งต่อปี

จุดสังเกตสัญญาณซ่อมบ้าน จุดที่ 3 : ประตูปิดไม่สนิท หรือแน่นจนเปิดไม่ออก

 

จากเดิมที่ประตูในบ้านทุกบานสามารถเปิด-ปิดได้อย่างราบรื่น แต่พอนานๆเข้ากลับมีปัญหา ประตูไม่สามารถปิดได้หรือฝืดจนเปิด-ปิดลำบาก นี่อาจเป็นสัญญาณถึงปัญหาที่เกิดกับโครงสร้างบ้าน หนึ่งในคำอธิบายอาจเป็นเรื่องของชั้นดินน้ำมันที่ขยายตัวเวลาอุ้มน้ำไว้มากๆ ทำให้ฐานรากของบ้านต้องรับน้ำหนักเยอะจนเกิดการเอียงหรือทรุดตัว สิ่งสำคัญคือการตั้งข้อสังเกต หากเมื่อไหร่ที่ประตูเริ่มมีปัญหาเปิด-ปิด หลังจากระยะเวลานาน ควรตั้งข้อสงสัยและเรียกผู้เชี่ยวชาญมาทำการตรวจสอบฐานรากของบ้านว่ายังอยู่ในสภาพที่ดีอยู่หรือไม่

จุดสังเกตสัญญาณซ่อมบ้าน จุดที่ 4 : พื้นเอียง

 

สัญญาณของพื้นเอียงอาจจะเป็นเรื่องที่สังเกตได้ยากซักหน่อย อาจจะต้องใช้ความบังเอิญในโอกาสต่างๆช่วยในการสังเกต เช่น หากทำสิ่งของกลมๆตกพื้นแล้วชอบไหลไปที่เดียวกัน หรือทำน้ำหกลงพื้นแล้วน้ำไหลไปที่เดียว ความบังเอิญดังกล่าวจะช่วยบ่งบอกได้ว่าพื้นบ้านเอียง จากที่พื้นบ้านเคยตรงและเสมอกันดี เริ่มที่จะเอียงแล้ว อาจเป็นสัญญาณของปัญหาที่เกิดกับข้อต่อต่างๆที่ใช้รองรับพื้นบ้าน ควรให้วิศวกรเข้ามาตรวจสอบว่ามีชิ้นส่วนของตัวรับน้ำหนักพื้นชิ้นไหนที่ต้องถูกเปลี่ยนบ้าง

จุดสังเกตสัญญาณซ่อมบ้าน จุดที่ 5 : ได้กลิ่นแปลกๆออกมาจากที่เสียบปลั๊กไฟ

สายไฟและขดลวดที่ไหม้และละลายจะมีกลิ่นแปลกๆออกมา จะคล้ายกับกลิ่นเวลามอเตอร์ของเครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานหนักเกินไป หากได้กลิ่นผิดปกติออกมาจากบริเวณปลั๊กไฟ ให้ถอดปลั๊กของเครื่องใช้ไฟฟ้าบริเวณใกล้เคียงออกทันที บางครั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เพิ่งซื้อมาใหม่ ก็จะมีกลิ่นแปลกๆออกมาตอนใช้งานครั้งแรกๆ ฉะนั้นจะต้องสังเกตให้ดีๆ แต่ถ้ามีกลิ่นออกมาจากปลั๊กไฟเฉพาะบริเวณใดบริเวณหนึ่งเท่านั้น ให้ลองเรียกช่างไฟฟ้าเข้ามาตรวจสอบระบบไฟบริเวณนั้นดู เพราะการเดินสายไฟไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้

จุดสังเกตสัญญาณซ่อมบ้าน จุดที่ 6 : หลอดไฟกระพริบ

หากที่บ้านไม่ได้กำลังจัดปาร์ตี้อยู่ และใช้หลอดไฟที่กระพริบได้สำหรับการจัดงาน การที่หลอดไฟภายในบ้านกระพริบนั้นย่อมเป็นสัญญาณของปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไข อย่างแรก ลองตรวจดูว่าหลอดไฟอยู่ในสภาพที่หลวมอยู่รึเปล่า หรือลองเปลี่ยนหลอดไฟดู แต่หากลองหมุนหลอดให้แน่นหรือลองเปลี่ยนหลอดไฟใหม่แล้ว แต่ปัญหาหลอดไฟกระพริบยังไม่หาย หรือเริ่มมีหลอดไฟในบริเวณเดียวกันกระพริบหลายดวง ให้ตั้งข้อสงสัยว่าอาจจะเป็นปัญหาที่วงจรไฟฟ้า ซึ่งอาจจะเกิดการหลวม หรือวงจรไฟฟ้าไม่เหมาะกับการใช้งานของอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆภายในบ้าน ควรเรียกช่างไฟเข้ามาตรวจสอบเพื่อจัดการกับปัญหาให้ตรงจุดต่อไป

จุดสังเกตสัญญาณซ่อมบ้าน จุดที่ 7 : กระจกหน้าต่างร้าว

หากแถวบ้านไม่มีเด็กซนคนไหนเพิ่งเล่นปาบอลและมาโดนกระจกหน้าต่างที่บ้าน แต่อยู่ดีๆกระจกหน้าต่างก็เริ่มร้าว คุณจะต้องเริ่มสวมวิญญาณนักสืบเพื่อหาต้นตอของปัญหาอย่างด่วน โดยส่วนมากกระจกหน้าต่างที่ร้าวอาจเกิดจากโครงสร้างบ้านเริ่มเอียง ให้ลองสังเกตผนังทั้งภายในและภายนอกอาคารว่ามีตรงไหนที่เริ่มมีรอยร้าวบ้าง โดยเฉพาะบริเวณมุมและข้อต่อของอาคาร หากมีรอยร้าวดังกล่าว ควรเรียกวิศวกรโครงสร้างหรือรับเหมาเข้ามาตรวจสอบอาคารโดยด่วน

จุดสังเกตสัญญาณซ่อมบ้าน จุดที่ 8 : สายยางที่ต่อกับเครื่องซักผ้าบวม

 

สายยางที่ต่อน้ำเข้าเครื่องซักผ้า หากใช้ไปนานๆอาจเกิดอาการปูด บวม คล้ายกับบอลลูน เนื่องจากแรงดันน้ำจำนวนมากที่ผ่านสายยาง ทำให้สายยางเกิดอ่อนและเสื่อมสภาพ หากเริ่มสังเกตเห็นอาการดังกล่าว ต้องรีบจัดการโดยด่วน เนื่องจากอาการปูด บวมของสายยาง หมายถึงยางที่เสื่อมและพร้อมที่จะระเบิดได้ทุกเมื่อ ควรหาซื้อสายส่งน้ำมาเปลี่ยนใหม่โดยทันที หรือลองพิจารณาเปลี่ยนจากสายยางเป็นสายแบบเหล็กถัก (braided steel hose) ที่ทนทานกับแรงดันน้ำได้ดีกว่า

จุดสังเกตสัญญาณซ่อมบ้าน จุดที่ 9 : เจอกองเศษกระดาษตามที่ต่างๆ

 

หากคุณพบเจอกองของเศษกระดาษตามที่ต่างๆภายในบ้าง เจ้าของบ้านต้องระวังให้ดี เพราะนี่คือสัญญาณของหนูมาทำรังในบ้านคุณนั่นเอง หนูมักจะสร้างรังด้วยเศษวัสดุต่างๆ เช่น เศษกระดาษ กระดาษลัง หรือเศษผ้า การพบกองเศษกระดาษจำนวนเล็กน้อยอาจทำให้เจ้าของบ้านวางใจว่าอาจมีหนูไม่กี่ตัวในบ้าน แต่อย่าลืมว่าหนูตัวเมียสามารถท้องและมีลูกได้ถึง 5 คอกในแต่ละปี หากคุณละเลยปัญหาตั้งแต่แรก บ้านคุณอาจกลายเป็นที่อยู่ของอาณาจักรหนูได้ ปัญหาเรื่องหนูๆ แก้ได้หลายวิธี ไม่ว่าจะวางกับดักแบบที่ไม่ทำอันตรายกับหนูแล้วเอาไปปล่อย หรือหากไม่อยากจัดการด้วยตัวเอง ก็สามารถเรียกใช้บริการจากบริษัทฯกำจัดหนูได้

จุดสังเกตสัญญาณซ่อมบ้าน จุดที่ 10 : เจอปัญหาน้ำทิ้งไหลช้า หลายจุดภายในบ้าน

ปัญหาน้ำในห้องน้ำหรือ่างล้างหน้าระบายช้า เป็นปัญหาประจำที่คุ้นเคยภายในบ้าน แต่ถ้าปัญหานี้ไม่ได้เกิดแค่บางบริเวณ แต่กลับเกิดขึ้นพร้อมๆกันในหลายๆจุดในตัวบ้าน คุณอาจจะเจอปัญหาใหญ่เข้าแล้ว เพราะน้ำที่ระบายออกช้าทั้งบ้าน อาจเกิดจากปัญหาของท่อน้ำทิ้งหลักเกิดการอุดตัน ปัญหานี้เป็นปัญหาระดับที่ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ เจ้าของบ้านควรเรียกช่างประปาเข้ามาแก้ไขโดยเร็ว

จุดสังเกตสัญญาณซ่อมบ้าน จุดที่ 11 : สีผนังเริ่มแตก โป่ง หรือลอก

 

ปัญหาเรื่องสีโป่ง แตก และหลุดลอก อาจจะเกิดจากสาเหตุง่ายๆ เช่นการที่ช่างสีไม่มีฝีมือ และสามารถแก้ไขได้โดยการจ้างช่างมาทาสีให้ใหม่ แต่ปัญหาเรื่องสีโป่ง ก็อาจจะเกิดจากสาเหตุเรื่องความชื้นได้เช่นกัน หากในบริเวณผนังมีน้ำรั่วซึม อาจจะทำให้ผนังชื้นและสีที่ทาไว้เกิดโป่งออกมาได้ ฉะนั้นจะต้องหาสาเหตุของสีทาบ้านที่โป่งและหลุดลอกให้ดี คุณอาจจะต้องโทรหาช่างประปาก่อนที่จะออกไปซื้อสีทาบ้าน

จุดสังเกตสัญญาณซ่อมบ้าน จุดที่ 12 : เสียงดังผิดปกติเวลากดชักโครก

ลองสังเกตเวลากดชักโครกให้ดี หากได้ยินเสียงดังแปลกๆออกมา เสียงดังน่ารำคาญเวลากดชักโครก อาจเกิดแรงดันอากาศในท่อน้ำทิ้งที่มีมากเกินไป ซึ่งเกิดมาจากการอุดตันภายในตัวท่อ หากได้ยินเสียงผิดปกติเวลากดชักโครกเมื่อไหร่ ควรพิจารณาเรียกช่างประปาเข้ามาตรวจสอบการอุดตันของท่อน้ำทิ้งเพื่อแก้ปัญหาต่อไป

ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว ตึก คอนโด “บ้าน” คือศูนย์รวมคุณค่า มากกว่าที่อยู่อาศัย หากท่านเจ้าของบ้านมีความสนใจ สงสัย หรือกังวล เกี่ยวกับบ้าน และแนวทางการตรวจ ดูแล หรือซ่อมแซม ทางริชคอนส์ของเรามีผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำปรึกษา แนะนำในทุกกรณี สามารถติดต่อเข้ามาได้ตลอดเวลาที่เบอร์ 095-6456964 หรือผ่านทาง Line Official โดยการสแกน QR code ด้านล่าง

ชมผลงานจาก Richcons คลิ๊กที่นี่