รู้ก่อนเลือก ทริคเลือกใช้ไม้ให้เหมาะกับสไตล์การตกแต่งของคุณ

ลองนึกถึงวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ ก็คงหนีไม่พ้น “ไม้” วัสดุที่ใช้กันแพร่หลายมาอย่างยาวนาน

การตกแต่งบ้านด้วยไม้เป็นสไตล์การตกแต่งที่ไม่เคยล้าสมัย แต่มีสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับการใช้ไม้ในงานตกแต่งและข้อพิจารณาที่เราควรทราบ เพื่อที่จะให้ได้ประโยชน์สูงสุด และได้บ้านที่สวยไปนานๆ ค่ะ

ประเภทของไม้ที่เราควรรู้จักก่อนจะตกแต่งบ้าน

ถ้าชอบใช้งานไม้ ควรรู้ว่า ไม้แปรรูปจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ ไม้เนื้ออ่อน ไม้เนื้อแข็ง และไม้เนื้อแกร่ง

ไม้เนื้ออ่อน คือ ไม้ที่มีเนื้อค่อนข้างเหนียว ทำการเลื่อยไสกบ ตกแต่งได้ง่าย ลักษณะเนื้อมีสีซีดจาง น้ำหนักเบา ขาดความแข็งแรงทนทาน รับน้ำหนักได้ไม่ดี เช่น  ไม้ฉำฉา ไม้กะบาก ไม้ยาง ฯลฯ

ไม้เนื้อแข็ง คือ ไม้ที่มีเนื้อแข็งปานกลาง ทำการเลื่อยไสกบ ตกแต่งได้ยาก ลักษณะเนื้อไม้มีสีเข้มค่อน ไปทางสีแดง มีความแข็งแรงทนทาน เช่น ไม้ตะเคียน ไม้ชิงชัน ไม้เต็ง ไม้มะม่วง ฯลฯ

ไม้เนื้อแกร่ง ได้แก่ ไม้ที่มีเนื้อแกร่ง ทำการเลื่อยไสกบ ตกแต่งได้ยากมาก  ลักษณะเนื้อไม้เป็นมันในตัว แน่น ลายละเอียด น้ำหนักมาก มีสีเข้มจัดจนถึงสีดำ มีความแข็งแรงทนทานดีมาก เช่น ไม้ประดู่ ไม้แดง ไม้เกลือ ฯลฯ

การเลือกไม้ที่จะนำมาใช้งานต้องพิจารณาใน  2  ประเด็นคือ

1. การเลือกไม้มาใช้ในงานประณีต

ไม้ที่เลือกมาใช้งานประเภทนี้ เป็นไม้ที่ไม่ต้องรับน้ำหนัก หรือต้านแรงมากเหมือนไม้ที่ใช้งานประเภทแรก แต่งานประเภทนี้จะนำไม้ไปประกอบเป็นรูปร่างต่างๆ เช่น บาน ประตู  หน้าต่าง  เครื่องเรือน ตู้  โต๊ะ เก้าอี้ หรือครุภัณฑ์ต่างๆ ที่จะทำอย่างประณีตเรียบร้อยและต้องการความสวยงามมากกว่าความแข็งแรง เป็นงานที่ทำได้ยากและต้องใช้ฝีมือ

2. การเลือกมาใช้ในงานรับน้ำหนักโดยตรง

ได้แก่ ไม้ที่ใช้ในการก่อสร้างที่ไม่ต้องการความประณีตมากนัก เช่น การก่อสร้างบ้านเรือนที่อยู่อาศัย

ไม้จำพวกนี้ต้องทำหน้าที่เกี่ยวกับการรับน้ำหนักและต้านทานแรงต่างๆมากกว่าความสวยงาม  ความแข็งแรงจึงเป็นข้อแรกที่จะต้องคัดเอาไม้ที่แข็งแรงเท่าที่จะสามารถทำได้ คือ ต้องเป็นไม้ที่เนื้อแน่น แข็งแกร่ง เหนี่ยว ไม่เปราะง่าย

ควรเลือกไม้แก่นหรือไม้ที่มีอายุเหมาะแก่การตัด ไม่มีรอยชำรุดเสียหาย เช่น เป็นตา ผุ แตกร้าว ปิดงอ คด โค้ง และเป็นไม้ที่ผ่านการผึ่งมาได้ที่พอเหมาะแก่งานประเภทนี้

 

 

2.1 ไม้อัด (Plywood)

ไม้ชนิดนี้จะให้ความแข็งแรง คงทน และยังสามารถกันน้ำได้ เหมาะกับการใช้ตกแต่งงานชิ้นใหญ่ๆ เช่น เค้าน์เตอร์ครัว เตียงนอนบิ้วอินในคอนโด ฯลฯ แต่จะมีราคาสูง และน้ำหนักมาก

2.2 ไม้แท้ หรือไม้จริง (Wood)

เป็นไม้ที่มีราคาสูงที่สุด เพราะหายาก แต่กลับได้รับความนิยมในกลุ่มคนที่อาศัยคอนโดในกรุงเทพฯ สามารถใช้ดัดแปลงทำได้หลากหลาย ทั้งเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว และบิ้วอิน รับน้ำหนักได้มาก แต่ต้องดูแลรักษาด้วยการทาน้ำยารักษาเนื้อไม้อย่างสม่ำเสมอ

2.3 ไม้ปาติเกิล (Particle Board)

เป็นไม้ที่ทำมาจากการนำเศษไม้ยางพาราบด หรือเรียกว่าขี้เลื่อยผสมกาว และอัดบดเป็นแผ่นปิดด้วยผิวด้านนอกด้วยกระดาษพิมพ์ลาย ฟอยด์ หรือแผ่นเมลามีน เหมาะสำหรับทำเฟอร์นิเจอร์รวมถึงบิ้วอินต่างๆ ที่ไม่ต้องรองรับน้ำหนักมากเช่น ชั้นวางของ ตู้เสื้อผ้าในคอนโด ฯลฯ

 

2.4 ไม้เอ็มดีเอฟ (MDF: Medium-Density Fiberboard)

เป็นไม้ที่ใช้กรรมวิธีเดียวกับไม้ปาติเกิ้ล แต่จะมีความหนาแน่นสูงกว่ามาก เหมาะกับงานตกแต่งในคอนโดเพราะขึ้นรูปได้สะดวก เจาะรูง่าย สามารถทาสีลงบนไม้ และทนน้ำหนักได้ดีกว่าไม้ปาร์ติเกิล

 

 

 

ลองเลือกไม้ที่ชอบ และเอาไปปรับแต่งให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของเราดูค่ะ ไปตกแต่งบ้าน สร้างมุมเจ๋ง ๆ ไว้ผ่อนคลายกันเลย !!

หากท่านใดมีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับเนื้อหา หรือมีข้อสงสัย อยากได้คำแนะนำเกี่ยวกับการสร้างบ้าน หรือมองหาผู้ออกแบบ หรือช่างผู้เชี่ยวชาญ สามารถติดต่อเราได้ที่ 095-6456964 หรือผ่านทาง Line Official โดยการสแกน QR code ด้านล่าง

ชมผลงานจาก Richcons คลิ๊กที่นี่